Category Universal Laws

เราเป็นคนจำกัดความมั่งคั่งร่ำรวยที่เราควรได้แบบไม่รู้ตัวได้อย่างไร

คนเราจะเป็นได้แค่เพียงแค่ยาจก…ตราบใดที่เขายังมีความคิดแบบยาจก ทำไมต้องใช้ชีวิตไปกับการแสดงลักษณะของคนรับใช้? หากคุณเป็นคนจริง ก็อย่าไปไหนต่อไหนด้วยท่าทางเหมือนขอทาน พูดจาเหมือนขอทาน กระทำตัวเหมือนขอทาน มีเพียงการคิดถึงความเจริญรุ่งเรืองและความอุดมสมบูรณ์เท่านั้นที่จะนำคุณไปสู่ถึงชีวิตที่มั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์ได้ การกำหนดข้อจำกัดให้ตัวเราเองถือเป็นหนึ่งในบาปที่ร้ายแรงที่สุดของมวลมนุษยชาติเลยก็ว่าได้ ความเจริญรุ่งเรืองจะหลั่งไหลผ่านช่องทางที่เปิดกว้างเพื่อรับมันเท่านั้น และความสงสัย ความกลัว และการขาดความมั่นใจ จะเป็นสิ่งที่ปิดกั้นช่องทางเหล่านี้ จิตใจที่คับแคบหมายถึงผลลัพธ์ที่จำกัด ทุกสิ่งที่เราได้รับในชีวิตมาจากประตูแห่งความคิดของเรา หากประตูนั้นคับแคบ ตระหนี่ และขี้เหนียว สิ่งที่จะไหลเข้ามาหาเราก็ย่อมสอดคล้องกัน คุณจะคิดอย่างไรกับเจ้าชายรัชทายาทแห่งอาณาจักรที่เปี่ยมด้วยความมั่งคั่งและอำนาจอันไร้ขีดจำกัด แต่กลับต้องมีชีวิตราวกับยาจก? เจ้าชายผู้ที่คร่ำครวญถึงชะตากรรมอันโหดร้าย และพร่ำบอกผู้อื่นว่าเขาช่างยากจนเหลือเกิน บ่นว่าเขาไม่เชื่อเลยว่าพ่อของเขาจะประทานสิ่งใด และเขาจำต้องยอมจำนนต่อชีวิตแห่งความยากจนและข้อจำกัด คุณคงจะบอกว่าเขาเสียสติดไปแล้ว และสภาพความลำบาก ความยากจน และข้อจำกัดของเขานั้นไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นเพียงภาพลวงตา มันดำรงอยู่เพียงในจิตใจของเขาเท่านั้น พ่อของเขายินดีจะมอบสิ่งดีๆทั้งหมดที่ใจเขาปรารถนา หากเพียงเขาจะเปิดใจยอมรับความจริงและใช้ชีวิตให้สมกับฐานะของเจ้าชาย โอรสและรัชทายาทแห่งมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ทว่า หากตอนนี้คุณกำลังใช้ชีวิตขัดสน ในสภาพแวดล้อมที่คับแคบจำกัด โดยที่ดูเหมือนจะไร้ความหวัง ไร้โอกาสที่จะพบสิ่งที่ดีกว่านี้ หากคุณไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการทั้งที่ทำงานอย่างหนัก…

คำอธิบายคัมภีร์ไคบาเลียน (The Kybalion) กับหลักทั้ง 7 ประการ และวิธีประยุกต์ใช้

หลังจากที่เราได้นำเสนอเนื้อหาคำแปล The Kybalion คัมภีร์ไคบาเลียน แบบละเอียดทั้งหมด 15 ตอนก่อนหน้านี้ ต่อไปก็จะเป็นการสรุปรวบยอดว่าจริงๆแล้ว คัมภีร์ไคบาเลียนต้องการสื่ออะไรให้คนอ่าน มันก็จะกลับไปคำถามดั้งเดิมคือ คุณเคยสงสัยบ้างไหมว่าภูมิปัญญาโบราณสามารถช่วยให้คุณเดินทางผ่านชีวิตยุคปัจจุบันได้อย่างไร หากว่าภูมิปัญญาโบราณนั้นเป็นกุญแจสู่การควมคุมชะตาของตัวเองและได้มาซึ่งสิ่งที่ตัวเองต้องการ ภูมิปัญญาที่ว่าคือ The Kybalion ที่เราได้เขียนถึงมาแล้วอย่างละเอียดในเนื้อหาบทก่อนๆนั่นเอง หลังจากที่เราได้เขียนถึง The Kybalion อย่างละเอียดทั้ง 7 หลักการมาแล้วหลายวัน วันนี้เราจะพูดถึงวิธีการเอามาประยุคต์ใช้ในชีวิจได้อย่าง และจะลงรายละเอียดไปสู่การทำงานภายในของจิตใจ ในความพยายามที่จะปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของมัน เรามาร่วมกันกับเราในการดำดิ่งลงสู่วิธีการนำหลักการเฮอร์มิติกทั้ง 7 ประการมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของเรา หากคุณพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงความเข้าใจในโลกและสถานะของคุณในโลกนี้ก็มาติดตามต่อกันเลยครับ The Kybalion (คัมภีร์ไคบาเลียน) ที่เขียนขึ้นโดยผู้ที่เรียกตัวเองว่า Three Initiate ซึ่งได้ตีพิมพ์เมื่อปี 1908 และกลายเป็นหลักการสำคัญของปรัชญาเฮอร์มิติก มันให้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการที่เป็นพื้นฐานเจ็ดประการที่ปกครองจักรวาลของเรา ภูมิปัญญาโบราณนี้มีรากเหง้ามาจากอียิปต์และกรีซ…

The Kybalion: คู่มือไขความลับ “สรรพสิ่งที่เห็นและเป็นไปนั้นคือสิ่งที่จิตสร้างขึ้น”

เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าเบื้องหลังแท้จริงของจักรวาลนี้คืออะไร เคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าเราเองมีบทบาทสำคัญแค่ไหน แล้วความคิดของเรามันจะมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆในโลกที่เราอยู่นี้จริงหรือเปล่า แล้วถ้าผมบอกว่าพลังในการสร้างโลกของตัวเองนั้น จริงๆ แล้วอาจซ่อนอยู่ในความคิดของคุณล่ะ? วันนี้เราจะลงลึกเจาะจงไปที่กลไกการทำงานของจิตใจ เพื่อที่เราจะปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของมันออกมา! หลังจากที่เราได้นำเสนอเนื้อหาของหนังสือ The Kybalion หรือที่หลายคนเรียกว่า คัมภีร์ไคบาเลียน มาแล้วทั้งหมดทุกบทจำนวน 15 บท ที่ผ่านมา วันนี้เราจะมาตีความหมายกันว่าจริงๆแล้ว The Kybalion ต้องการบอกอะไรเรา เนื้อในบทนี้เราจะดำดิ่งไปกับความรู้และภูมิปัญญาโบราณที่อยู่ใน The Kybalion (คัมภีร์ไคบาเลียน) การเดินทางของเราในวันนี้จะสำรวจตั้งแต่บทที่ 3 ถึงบทที่ 5 เพื่อที่จะแกะแนวคิดที่ว่า “สรรพสิ่งที่เห็นและเป็นไปล้วนเป็นโลกของจิตใจ” การเจาะลึกลงไปในแนวคิดอันน่าทึ่งนี้อาจจะพลิกโฉมความเข้าใจของคุณทั้งในเรื่องของจักรวาล บทบาทของเราในนั้น และพลังอันเหลือเชื่อของจิตใจของคุณเอง! เมื่อพร้อมแล้วก็คาดเข็มขัดให้แน่น เพราะการเดินทางนี้จะเต็มไปด้วยการเปิดโลกที่คุณอาจจะไม่เคยสัมผัสมาก่อน ก่อนที่เราจะไปสำรวจแต่ละบท ขอวางพื้นฐานความเข้าใจกันก่อนนะ งั้นมาแกะแนวคิดใหญ่เบิ้มอันแรกของ The…

The Kybalion (คัมภีร์คาบาเลียน): หลัก 7 ประการ ที่จะไขปริศนาของจักรวาลทำให้คุณบรรลุทุกอย่างที่ต้องการ บทที่ 15: สัจพจน์เฮอร์เมส

บทที่ 15 สัจพจน์เฮอร์เมส “การครอบครองความรู้ หากมิได้มาพร้อมกับการแสดงออกและถ่ายทอดสู่การกระทำ ก็เปรียบเสมือนการกักตุนโลหะมีค่า ซึ่งเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์และโง่เขลา ความรู้ก็เช่นเดียวกับความมั่งคั่ง มีไว้เพื่อการใช้ประโยชน์ กฎแห่งการใช้ประโยชน์เป็นสากล ผู้ใดฝ่าฝืนย่อมจะต้องทุกข์ทรมานเพราะไปขัดกับพลังแห่งธรรมชาติ” – The Kybalion บทนี้เป็นบทสุดท้ายของคัมภีร์ Kybalion ซึ่งจะสรุปทุกอย่าง แม้ว่าคำสอนเฮอร์เมสจะถูกหวงแหนและเก็บรักษาไว้ในจิตใจของผู้ครอบครองผู้โชคดีมาโดยตลอด ด้วยเหตุผลดังที่เราได้กล่าวไปแล้วนั้น ทว่าแท้จริงแล้ว คำสอนนี้มิได้มีไว้เพื่อการกักตุนและซุกซ่อน เพราะดังที่ท่านจะเห็นได้ชัดเจนจากข้อความที่ยกมาจากคัมภีร์ไคบาเลียนข้างต้น กฎแห่งการใช้ประโยชน์นั้นได้รับการเน้นย้ำอย่างหนักแน่น ความรู้ที่ปราศจากการใช้และการถ่ายทอดนั้นไร้ประโยชน์ ไม่นำมาซึ่งสิ่งดีงามใดๆ ทั้งต่อผู้ครอบครองและต่อผองชน จงระวังความตระหนี่ทางปัญญา และจงนำสิ่งที่ท่านได้เรียนรู้มาสู่การปฏิบัติ ศึกษาสัจพจน์และสุภาษิตเหล่านั้นให้เข้าใจ และที่สำคัญยิ่งกว่าคือจงนำมาลงมือทำด้วย ต่อไปนี้ เราขอนำเสนอสัจพจน์เฮอร์เมสที่สำคัญยิ่งบางส่วน จากคัมภีร์ไคบาเลียน พร้อมกับคำอธิบายสั้นๆ ในแต่ละข้อ จงนำไปใช้ให้เป็นนิสัย และฝึกฝนนำไปปฏิบัติ เพราะสัจพจน์เหล่านี้จะไม่ใช่ของท่านอย่างแท้จริงจนกว่าท่านจะได้นำไปใช้ “หากจะเปลี่ยนอารมณ์หรือสภาวะทางจิตของท่าน —…

The Kybalion (คัมภีร์คาบาเลียน): หลัก 7 ประการ ที่จะไขปริศนาของจักรวาลทำให้คุณบรรลุทุกอย่างที่ต้องการ บทที่ 14: เพศภาวะภายใน

บทที่ 14 เพศภาวะภายใน นักจิตวิทยาที่ติดตามแนวคิดสมัยใหม่เกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางจิตใจต้องสะดุดตากับแนวคิดความเป็นคู่ของจิตที่ฝังรากลึก อันเป็นแนวคิดที่แสดงออกอย่างชัดเจนในช่วงสิบถึงสิบห้าปีที่ผ่านมา และได้จุดประกายทฤษฎีมากมายที่ดูสมเหตุสมผลเกี่ยวกับธรรมชาติและโครงสร้างของ “สองจิต” ในตัวเรา ทอมสัน เจ.ฮัดสัน ผู้ล่วงลับไปแล้วได้รับความนิยมอย่างสูงในปี 1893 ด้วยการนำเสนอทฤษฎีที่โด่งดังเรื่อง “จิตสำนึกและจิตใต้สำนึก” ซึ่งเขาเชื่อว่าดำรงอยู่ในตัวบุคคลทุกคน ในเวลาใกล้เคียงกัน นักเขียนท่านอื่นๆ ก็ดึงดูดความสนใจได้เทียบเท่ากันด้วยทฤษฎีอย่าง “จิตที่รู้ตัวและจิตที่ไม่รู้ตัว”, “จิตที่ควบคุมได้และจิตที่ควบคุมไม่ได้”, “จิตที่กระทำและจิตที่รับกระทำ” เป็นต้น ทฤษฎีเหล่านี้มีความแตกต่างกัน แต่หัวใจสำคัญที่ทุกทฤษฎีมีร่วมกันคือ แนวคิด “ความเป็นคู่ของจิต” นักศึกษาปรัชญาเฮอร์เมสย่อมอดขำไม่ได้ เมื่ออ่านและได้ยิน “ทฤษฎีใหม่” มากมายเกี่ยวกับความเป็นคู่ของจิตเหล่านี้ แต่ละสำนักต่างยึดถือทฤษฎีโปรดของตนอย่างเหนียวแน่น พร้อมอ้างว่าตนนั้นแหละที่ “ค้นพบความจริง” หากนักศึกษาย้อนกลับไปเปิดหน้าประวัติศาสตร์ลึกลับของโลก กลับไปสู่จุดกำเนิดอันเลือนรางของคำสอนเวทมนตร์ ท่านจะพบว่ามีการกล่าวถึงหลักการเฮอร์เมสโบราณว่าด้วยหลักการแห่งเพศบนระดับจิต นั่นคือการแสดงออกของเพศทางจิต เมื่อศึกษาต่อไป ท่านจะพบว่าปรัชญาโบราณได้ตระหนักถึงปรากฏการณ์ “สองจิต”…

The Kybalion (คัมภีร์คาบาเลียน): หลัก 7 ประการ ที่จะไขปริศนาของจักรวาลทำให้คุณบรรลุทุกอย่างที่ต้องการ บทที่ 13: หลักการของเพศสภาพ

บทที่ 13 หลักการของเพศสภาพ “เพศมีอยู่ในทุกสิ่ง ทุกสิ่งมีหลักการเพศชายและเพศหญิง เพศปรากฏอยู่ในทุกระดับ” – The Kabylion หลักการแห่งแฮร์เมสข้อที่เจ็ดอันทรงพลัง นั่นคือ หลักการแห่งเพศ ได้รวบรวมสัจธรรมที่ว่า ‘เพศนั้นปรากฏอยู่ทั่วสรรพสิ่ง’ พลังแห่งความเป็นชายและความเป็นหญิงนั้นดำรงอยู่และขับเคลื่อนอยู่เสมอในทุกปรากฏการณ์ ทุกช่วงเวลาแห่งชีวิต และในทุกระดับของการดำรงอยู่ ณ จุดนี้ เราใคร่ขอให้ท่านตระหนักถึงความจริงที่ว่า ‘เพศ’ ในบริบทของศาสตร์แฮร์เมส และ ‘เพศ’ ในความหมายตามการใช้ทั่วไปนั้น มิได้เป็นสิ่งเดียวกัน รากศัพท์ของคำว่า “เพศ” (Gender) นั้นสืบเนื่องมาจากภาษาละติน อันมีความหมายว่า ‘ให้กำเนิด’, ‘สืบพันธุ์’, ‘สร้าง’, ‘ก่อให้เกิด’ เพียงพินิจชั่วครู่ ท่านจะตระหนักว่า คำนี้มีความหมายกว้างขวางและครอบคลุมยิ่งกว่าคำว่า “เพศกำเนิด” (Sex)…

The Kybalion (คัมภีร์คาบาเลียน): หลัก 7 ประการ ที่จะไขปริศนาของจักรวาลทำให้คุณบรรลุทุกอย่างที่ต้องการ บทที่ 12: หลักการของเหตุและผล

บทที่ 12 หลักการของเหตุและผล “ทุกสรรพสิ่งล้วนมีเหตุผล ทุกการกระทำย่อมมีผลลัพธ์ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นไปตามธรรมชาติ สิ่งที่เราเรียกว่า “โอกาส” หรือ “ความบังเอิญ” จริงๆ แล้วก็คือกฎของธรรมชาตินั่นเอง เพียงแต่เรายังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้เท่านั้น มีกฎธรรมชาติมากมายหลายระดับ แต่ทุกอย่างล้วนต้องอยู่ภายใต้กฎเหล่านี้” – The Kybalion หลักการเฮอร์เมทิคส์ข้อที่ 6 อันยิ่งใหญ่ — หลักเหตุและผล (Principle of Cause and Effect) — ซึ่งได้บรรจุความจริงแท้ว่า กฎธรรมชาติมีอิทธิพลต่อทุกสิ่งในจักรวาลนี้ ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นได้จากความบังเอิญ คำว่า “บังเอิญ” ก็แค่อีกคำที่เราใช้เรียกเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว แต่เรายังไม่สามารถรับรู้หรือเข้าใจได้ ปรากฏการณ์ทุกอย่างเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีขาดตอนหรือมีข้อยกเว้น หลักเหตุและผล (Principle…

The Kybalion (คัมภีร์คาบาเลียน): หลัก 7 ประการ ที่จะไขปริศนาของจักรวาลทำให้คุณบรรลุทุกอย่างที่ต้องการ บทที่ 11: หลักการของจังหวะ

บทที่ 11 หลักการของจังหวะ “ทุกสรรพสิ่งล้วนมีการไหลเข้าและออก มีจังหวะเวลาราวกับน้ำขึ้นน้ำลง มีขึ้นก็ต้องมีลง การแกว่งไปมาของลูกตุ้มสะท้อนให้เห็นในทุกสิ่ง การแกว่งไปทางขวามากเท่าไหร่ ก็จะต้องแกว่งไปทางซ้ายมากเท่านั้น จังหวะจะชีวิตจะเป็นตัวสร้างสมดุล” – The Kybalion หลักการเฮอร์เมทิคส์ข้อที่ 5 อันยิ่งใหญ่ — หลักแห่งจังหวะ (Rhythm) — ได้บรรจุความจริงแท้ที่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างต่างแสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวที่มีจังหวะ การเคลื่อนที่ไป-กลับ การไหลเข้า-ออก การเคลื่อนไหวไปข้างหน้า-ถอยหลัง เหมือนลูกตุ้ม คล้ายกับการขึ้น-ลงของน้ำทะเล สูงสุด-ต่ำสุด เหล่านี้ ล้วนปรากฏให้เห็นทั้งในระดับกายภาพ ระดับความคิดจิตใจ และระดับทางจิตวิญญาณ หลักแห่งจังหวะนี้เชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับหลักแห่งขั้วตรงข้าม (Polarity) ที่ได้อธิบายไปในบทก่อนหน้า จังหวะจะปรากฏขึ้นระหว่างสองขั้วที่สร้างขึ้นจากหลักแห่งขั้วตรงข้าม อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่า ลูกตุ้มแห่งจังหวะจะแกว่งสุดโต่งไปถึงสองขั้วเสมอไป เพราะแทบจะไม่เกิดขึ้นเลย…

The Kybalion (คัมภีร์คาบาเลียน): หลัก 7 ประการ ที่จะไขปริศนาของจักรวาลทำให้คุณบรรลุทุกอย่างที่ต้องการ บทที่ 10: หลักแห่งขั้วตรงข้าม

บทที่ 10 หลักแห่งขั้วตรงข้าม “ทุกสิ่งล้วนมีคู่ตรงข้าม ทุกสิ่งมีขั้ว ทุกสิ่งมีสิ่งที่อยู่ตรงกันข้าม” – The Kybalion หลักการอันยิ่งใหญ่ข้อที่สี่แห่งศาสตร์แขนง Hermetic – หลักการแห่งขั้ว (Polarity) – ได้เผยให้เห็นความจริงที่ว่า ทุกสิ่งที่ปรากฏล้วนมี “สองด้าน” “สองมุมมอง” “สองขั้ว” เสมือน “คู่ตรงข้าม” ที่เชื่อมโยงกันด้วยระดับความเข้มข้นอันหลากหลาย ความขัดแย้งโบราณที่เคยกวนใจเหล่านักคิดนั้น สามารถคลี่คลายได้ด้วยความเข้าใจในหลักการนี้ มนุษย์เรามักจะรับรู้ถึงหลักการนี้โดยไม่รู้ตัว และได้พยายามถ่ายทอดมันออกมาผ่านคำคม สุภาษิต และข้อคิด อย่างเช่น “ทุกสิ่งทั้งเป็นและไม่เป็นไปพร้อมกัน” “ความจริงทั้งปวงล้วนเป็นเพียงเศษเสี้ยว” “ทุกความจริงย่อมมีครึ่งที่เป็นเท็จ” “ทุกสิ่งมีสองด้าน ดั่งเหรียญที่มีสองหน้า” และอีกมากมายหลายหลาก ศาสตร์แขนง Hermetic ได้สอนไว้ว่า ความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ดูเหมือนจะตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง…

The Kybalion (คัมภีร์คาบาเลียน): หลัก 7 ประการ ที่จะไขปริศนาของจักรวาลทำให้คุณบรรลุทุกอย่างที่ต้องการ บทที่ 9: การสั่นสะเทือน

บทที่ 9 การสั่นสะเทือน ‘ไม่มีสิ่งใดหยุดนิ่ง ทุกสิ่งเคลื่อนไหว ทุกสิ่งสั่นสะเทือน‘ The Kybalion หลักการแฝงเร้นข้อที่สามอันยิ่งใหญ่ — หลักการแห่งการสั่นสะเทือน — ได้รวบรวมสัจธรรมที่ว่าการเคลื่อนไหวปรากฏอยู่ในทุกสรรพสิ่งทั่วจักรวาล — ไม่มีสิ่งใดหยุดนิ่ง — ทุกสิ่งเคลื่อนไหว สั่นสะเทือน และหมุนเวียน หลักการแฝงเร้นนี้ได้รับการยอมรับจากนักปรัชญากรีกยุคแรกเริ่มผู้ซึ่งได้หลอมรวมหลักการนี้เข้าไว้ในปรัชญาของตน ทว่า หลักการนี้ได้สูญหายไปจากสายตาของนักคิดนอกแนวทางแฝงเร้นเป็นเวลาหลายศตวรรษ กระทั่งในศตวรรษที่สิบเก้า วิทยาศาสตร์กายภาพได้ค้นพบสัจธรรมนี้ขึ้นอีกครั้ง และการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ยี่สิบได้เป็นเครื่องยืนยันเพิ่มเติมถึงความถูกต้องเที่ยงตรงของหลักคำสอนแฝงเร้นที่มีอายุนับศตวรรษนี้ต่อไป คำสอนแฝงเร้นกล่าวว่าไม่เพียงแต่ทุกสิ่งจะอยู่ในสภาวะเคลื่อนไหวและสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น หากแต่ ‘ความแตกต่าง’ ระหว่างการแสดงออกที่หลากหลายของพลังงานสากลทั้งมวลนั้นเกิดขึ้นเนื่องมาจากอัตราและรูปแบบของการสั่นสะเทือนที่แปรผัน ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่ ‘มหาสรรพสิ่ง’ นั้นก็ยังแสดงการสั่นสะเทือนคงที่ที่มีระดับความเข้มข้นและความเร็วในการเคลื่อนไหวอันหาที่สุดมิได้ จนแทบจะถือได้ว่าอยู่ในสภาวะนิ่งสนิท บรรดาครูบาอาจารย์เน้นย้ำให้เหล่าศิษย์ได้ตระหนักว่าแม้แต่ในระนาบกายภาพ วัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว (เช่น กงล้อที่หมุนวน) ก็ยังดูราวกับว่าอยู่นิ่งสนิท คำสอนได้อธิบายว่าจิตวิญญาณนั้นอยู่…